รถยนต์

Jazz Hybrid

768,000 บาท

สีขาวบริลเลียนท์ 778,000 บาท

มร. ชิงโกะ นากามิเนะ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา Honda Jazz HYBRID จาก บริษัท Honda R&D จำกัด ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “เป้าหมายการพัฒนา Jazz HYBRID คือ การสร้างสรรค์รถยนต์ Sub-Compact ที่มีความลงตัวสำหรับการใช้งาน รวมถึงการปรับปรุงนวัตกรรมด้านเทคนิคและความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในภาพรวม Honda Jazz HYBRID ได้ผสมผสาน 2 เทคโนโลยีที่มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร

ประการแรก เทคโนโลยีพื้นตัวถังที่มีการจัดวางถังน้ำมันไว้ตรงกลาง ซึ่งเริ่มมีการนำมาใช้ตั้งแต่ Honda Jazz รุ่นแรก ประการที่สอง การออกแบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีขนาดบางและชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะหรือ IPU ที่มีขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบา ส่งผลให้ตัวรถสามารถตอบสนองพื้นที่ใช้สอยได้อย่างยอดเยี่ยม Jazz HYBRID ได้รับการออกแบบโดยอิงแนวคิดเรียบ และล้ำสมัย (Advance & Clean) โดดเด่นด้วยการออกแบบภายในห้องโดยสารเพื่อรองรับการใช้งานอเนกประสงค์ พร้อมพรั่งด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

สำหรับระบบขับเคลื่อน HYBRID ของรถรุ่นนี้ เป็นแบบคู่ขนาน (Parallel Hybrid) ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์เป็นขุมพลังหลักในการขับเคลื่อน เนื่องจากรูปแบบของระบบไฮบริดแบบคู่ขนานไม่ซับซ้อน จึงทำให้มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ซึ่งมีส่วนช่วยในการเพิ่มสมรรถนะการขับขี่และความประหยัดเชื้อเพลิง คงความสนุกในการขับขี่

ชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ IPU ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา จัดวางไว้บริเวณพื้นห้องเก็บสัมภาระด้านหลังของตัวรถ ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ของการจัดวางเบาะนั่งในรูปแบบเดียวกับแจ๊ซรุ่นเบนซิน ซึ่งสามารถปรับระดับได้หลากหลายรูปแบบ มีพื้นที่ใช้สอยตอบสนองการใช้งานและจัดเก็บสัมภาระได้อย่างเต็มที่ ผลลัพธ์ที่ได้คือ การสร้างสรรค์รถยนต์ Sub-Compact ขุมพลัง HYBRID ที่เพียบพร้อมด้วยคุณค่าใหม่ออกสู่ตลาดในประเทศไทยในวันนี้

ขุมพลังของ Jazz HYBRID ประกอบด้วย เครื่องยนต์ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1.3 ลิตร พร้อมระบบแปรผันวาล์ว i-VTEC กำลังสูงสุด 88 แรงม้า (ที่ 5,800 รอบ/นาที) และมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ IMA (Integrated Motor Assist) ให้กำลัง 14 แรงม้า (ที่ 1,500 รอบ/นาที) เครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุด 121 นิวตัน-เมตร (ที่ 4,500 รอบ/นาที) และมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดสูงสุด 78 นิวตัน-เมตร (ที่ 1,000 รอบ/นาที)

โดยเครื่องยนต์จะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อน และเสริมแรงด้วยพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกตัวและเร่งแซง เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำคงที่ เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน และเข้าสู่ EV Mode โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว ซึ่งในขณะที่เครื่องยนต์เข้าสู่ EV Mode จะไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ช่วงลดความเร็วหรือเบรก เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน ระบบจะนำพลังงานที่สูญเสียไปในขณะเบรกมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งกลับคืนสู่แบตเตอรี่ไฮบริดเพื่อเก็บพลังงานไว้ใช้งานต่อไป และเมื่อรถหยุด เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดทำงานอัตโนมัติและเข้าสู่โหมด Idling Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษ ทั้งนี้เทคโนโลยีไฮบริด ช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึงประมาณ 21.3 กิโลเมตร/ลิตร (หรือ 4.7 ลิตร/100 กิโลเมตร) และปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 110 กรัม/กิโลเมตร

Jazz HYBRID ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ล่าสุด อาทิ กระจังหน้า ไฟหน้าไฟท้ายแบบใหม่ คิ้วโครเมียมฝากระโปรงท้าย ล้อแม็กอัลลอยขนาด 15 นิ้ว ปุ่ม ECON สำหรับเลือกโหมดการขับขี่ แบบเดียวกับ CIVIC FB CR-Z และ StepWGN Spada ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ หน้าจอแสดงข้อมูล MID หน้าจอแสดงข้อมูลสถานะการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย เครื่องเสียงแบบโมดูลพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX กล่องเก็บของใต้เบาะนั่งหลัง ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลางอเนกประสงค์ พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายกว้างขวาง รองรับทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะนั่ง Ultra SEAT ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายโหมด เสริมความมั่นใจด้วยโครงสร้างตัวถังรถยนต์แบบ G-CON นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานด้วยถุงลมคู่หน้า Dual SRS และระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD

ที่สำคัญ Honda ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ด้วยการรับประกันระบบ HYBRID ซึ่งมีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม แบตเตอรี่ HYBRID และระบบสายไฟ HYBRID โดยมีการรับประกันทั้งระบบ เป็นระยะเวลาถึง 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง Honda Jazz HYBRID ยังได้รับสิทธิคืนภาษีรถยนต์คันแรกด้วย